Post Views: 275
ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจสิ่งที่ตนเองชื่นชอบและการค้นพบชุมชนที่มีความสนใจเหมือนกันไปจนถึงการ ติดตามความน่ารักในชีวิตประจำวันจากลูกฮิปโปแคระตัวน้อย Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาอย่าง ต่อเนื่องเพื่อเชื่อมต่อผู้คนจำนวนหลายพันล้านเข้ากับสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขา รวมถึงชุมชนที่มี ความชอบและความสนใจในสิ่งเดียวกัน วันนี้ Meta ได้จัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ Facebook IRL (หรือ Facebook In Real Life) ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ใจกลางกรุงเทพฯ กับงานอีเวนต์สุดสนุก ในธีมคาร์นิวัลที่จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ถึง 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยมุ่งสร้างการมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ (young adults) ครีเอเตอร์ และชุมชนต่าง ๆ งานนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญระดับโลกของ Meta ที่มีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็น ถึงความมุ่งมั่นของ Facebook ในการส่งเสริมการค้นพบและการสร้างชุมชน ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก
สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก Facebook
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Facebook ได้รับการพัฒนาให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ทเวิร์ค ในปัจจุบัน Facebook ได้เติบโตเป็นแพลตฟอร์มแห่งการค้นพบ ที่ช่วยให้ผู้คนได้สำรวจสิ่งที่สำคัญในชีวิตของพวกเขา พร้อมเชื่อมต่อและแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาค้นพบกับผู้คนในชีวิตจริง และก้าวไปสู่เป้าหมายครั้งใหม่ในชีวิต หรือแม้แต่การสร้างรายได้ในฐานะครีเอเตอร์ ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคนต่อวัน คุณค่าของการ เชื่อมต่อระหว่างผู้คนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ Facebook ยังคงเป็นโซเชียลมีเดียที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในโลกมาจนถึงทุกวันนี้
คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของ Facebook นั้นเรียบง่าย เราคือแพลตฟอร์มสำหรับการค้นพบทางสังคมที่เปิดโลกของผู้ใช้ งานในหลากหลายมุมมอง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย เราเห็นผู้คนที่เข้ามาใช้ Facebook มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 18 ถึง 29 ปี ที่เข้ามาใช้งาน Facebook เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ในโลกจากผู้คน ที่มีความสนใจเหมือนกัน พร้อมค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงวัย”
“ในประเทศไทย Facebook ยังคงเป็นผู้นำในด้านการเชื่อมต่อและการค้นพบทางสังคม ดังนั้นเราจึงรู้สึก ตื่นเต้นที่ได้นำโครงการระดับโลกอย่าง #FacebookIRL มาจัดที่กรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมต่อผู้คนในชีวิตจริง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ชุมชนที่มีความสนใจร่วมกันต่าง ๆ และกลุ่มครีเอเตอร์ ตลอดสุดสัปดาห์นี้ กับงานในธีมเทศกาลคาร์นิวัล พร้อมกิจกรรมและเวิร์กช็อปฟรีมากมายให้ได้ร่วมสนุกกัน”
ในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงาน #FacebookIRL เปิดโอกาสให้ พันธมิตรของ Meta เช่น ธุรกิจจากภาคเอกชน ตัวแทนจากภาครัฐ ครีเอเตอร์ และสื่อมวลชนได้เข้าร่วม กิจกรรมที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดเพลิดเพลิน พร้อมอัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ Facebook และ Messenger อีกทั้งยังมีงานเน็ตเวิร์กกิ้งสำหรับครีเอเตอร์ เพื่อให้พวกเขาได้พบปะและเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ ในแวดวงครีเอเตอร์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและสีสันของประเทศไทย
ในช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 30 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567 #FacebookIRL จะเปิดประตูต้อนรับ บุคคลทั่วไป โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 5,000 คน ที่จะมาร่วมสนุกกับกิจกรรมและเวิร์กช็อป ต่างๆ ในงานตลอดทั้งสองวัน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังมีโอกาสพบปะกับครีเอเตอร์ที่ชื่นชอบตัวจริงได้ที่ Messenger Lounge ภายในงาน ซึ่งครีเอเตอร์เหล่านี้จะมาร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน หัวข้อต่าง ๆ เกี่ยวกับความชอบและความสนใจ ผลกระทบเชิงบวก และเส้นทางอาชีพของพวกเขา
Facebook IRL เปิดโอกาสให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเข้าร่วมงานได้ฟรี เพื่อให้คนรุ่นใหม่ในประเทศไทย ได้สัมผัสประสบการณ์เชื่อมต่อของกลุ่มชุมชนบน Facebook (Facebook Community Groups) ในชีวิตจริง รวมถึงโอกาสในการเรียนรู้จากครีเอเตอร์โดยตรงใน Messenger Lounge และการสร้างความทรงจำที่น่า ประทับใจไม่รู้ลืม
นวัตกรรมเพื่อคนรุ่นใหม่
ในงานนี้ Meta ได้เน้นย้ำถึงสองเทรนด์สำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ ที่สุดในโลกอย่าง Facebook ได้แก่ ความชอบของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) และนวัตกรรม AI โดยประสบการณ์การค้นพบที่ ขับเคลื่อนด้วย AI ทำให้คนรุ่นใหม่ใช้เวลาบน Facebook ไปกับการดู วิดีโอราว 60% และมีมากกว่า ครึ่งหนึ่งที่รับชม Reels ทุกวัน
คุณแพร ดำรงค์มงคลกุล กล่าวเสริมว่า “Facebook เป็นพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อ และช่วยให้ผู้คนค้นพบสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Facebook คือการช่วยให้ผู้ใช้งาน ได้ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นในกระบวนการค้นพบทางสังคม เมื่อใช้งาน Facebook เส้นทางของผู้ใช้ไม่จำเป็น ต้องหยุดอยู่แค่หลังจากการรับชมวิดีโอหรือแชร์สิ่งที่น่าสนใจกับเพื่อน ๆ บน Facebook ทุกคนสามารถ สานต่อสิ่งที่ตัวเองสนใจได้ลึกซึ้งมากขึ้น กับสิ่งที่พวกเขาค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นการหาไอเดียทำงานอดิเรก ให้เพลิดเพลินยิ่งขึ้นผ่านกลุ่มต่าง ๆ หรือการขอคำแนะนำวิธีดูแลต้นไม้และทำสวน ผ่าน Reels หรือเรียนรู้ การใช้งาน AI อย่างมืออาชีพในชุมชนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ต่าง ๆ”
Meta ยังคงพัฒนาประสบการณ์การค้นพบทางสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ งาน Facebook โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้คนทั่วไปให้สามารถสำรวจความสนใจและเชื่อมต่อกับผู้คนที่ หลากหลาย นอกเหนือจากเพื่อนสนิทใน Facebook ได้มากยิ่งขึ้น Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์ม ที่ผู้คนเลือกใช้เพื่อเชื่อมต่อกับชุมชนต่าง ๆ โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 1.8 พันล้านคนที่มีส่วนร่วมในกลุ่มต่าง ๆ ในแต่ละเดือน จึงทำให้ Facebook เป็นพื้นที่ที่ผู้คนสามารถพบเจอและทำในสิ่งที่รักได้อย่างเต็มที่
การพัฒนา Messenger เพื่อการสนทนาที่มีความหมาย
ในการกล่าวคีย์โน้ตในรูปแบบวิดีโอในงานเปิดตัว #FacebookIRL ในกรุงเทพฯ คุณอีเม่ อาร์ชิบอง รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ Messenger ได้กล่าวว่า Messenger ยังคงเป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมทั้งในด้านการใช้งานและการแสดงออก ในปัจจุบัน Messenger มีผู้ใช้รายเดือนมากกว่า
56 ล้านคนในประเทศไทย กว่า 30% โดยเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ในทุก ๆ วัน ผู้ใช้ในประเทศไทย ส่งข้อความเป็นจำนวนรวมกันกว่าหนึ่งพันล้านข้อความ และใช้เวลากว่าหนึ่งพันล้านนาทีในการโทรหากัน ผ่าน Facebook และ Messenger นอกจากนี้ยังมีการสร้างโน้ต (Notes) มากกว่า 4.5 ล้านรายการต่อวัน ในประเทศไทย
คุณอีเม่ อาร์ชิบอง กล่าวเสริมว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสำคัญสำหรับ Messenger และผมรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นบทบาทของ Messenger ที่มีต่อการสนทนาระหว่างผู้คนและธุรกิจที่ Messenger ได้สนับสนุนในประเทศไทย เราให้ความสำคัญกับหน้าที่ความรับผิดชอบนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราสร้างขึ้นนั้นมีความปลอดภัย มีประโยชน์ เชื่อถือได้ และใช้งานได้ง่ายและสนุกสำหรับ ผู้คนในประเทศไทยและทั่วโลก”
วันนี้ Messenger ช่วยให้ผู้คนสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างเป็นส่วนตัวในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ Reel ที่เห็นบน Facebook การแสดงความรู้สึกกับ Story ที่เพื่อนแชร์ หรือการโต้ตอบในรูปแบบต่าง ๆ ที่ Messenger ช่วยให้บทสนทนาลื่นไหลยิ่งขึ้น ในปีที่ผ่านมา จำนวนการแชร์แบบส่วนตัว หรือการแชร์ คอนเทนต์จาก Facebook ให้กับในแอปพลิเคชันแชทได้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ แอปพลิเคชันแชทที่ยังคงมีบทบาทในการสร้างการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนอยู่เสมอ